ภัยพิบัติน้ำท่วมช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ได้สร้างความเสียหายในวงกว้าง ขณะเดียวกันก็ได้สร้างความตื่นตัวต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมและการป้องกันภัยพิบัติเพิ่มมากขึ้น ดังที่เห็นได้จากการจัดเวทีสำรวจผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สถานการณ์สิ่งแวดล้อมต่อภาคใต้ที่ร่วมกันจัดขึ้นหลายหน่วยงานทั้งภาคประชาสังคม องค์กรพัฒนาเอกชน สถาบันการศึกษาในพื้นที่ เป็นต้น เมื่อวันที่ 23 – 24 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ ห้องมะเดื่อ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.อ.ปัตตานี มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจและประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สถานการณ์สิ่งแวดล้อมต่อภาคใต้ ร่วมกันหาแนวทางรับมือเพื่อสร้างอนาคตสิทธิมนุษยชนภาคใต้ที่เปราะบางอย่างยั่งยืน โดยการหยิบยกกรณีภัยพิบัติน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในภาคใต้ตอนล่างเป็นกรณีศึกษา

           นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จ.สงขลาและประธานชมรมแพทย์ชนบท มองว่า ภัยพิบัติครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าเราเตรียมความพร้อมไม่ดีพอ และขาดฐานข้อมูลที่สำคัญในการเข้าถึงประชาชน โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแลรักษาที่อยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ผู้เข้าร่วมเวทีจากจังหวัดนราธิวาสเสนอแนวคิดในการจัดการภัยพิบัติ โดยชี้ว่าปัญหาการกระจายอำนาจในการบริหารจัดการภัยพิบัติยังคงเป็น อุปสรรคสำคัญ ทำให้การแก้ไขปัญหาในระดับท้องถิ่นล่าช้าและไม่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่จริง การกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่นและชุมชนจะช่วยให้เกิดการมีส่วนร่วมในการวางแผนและดำเนินการป้องกันภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

           นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมจาก จ.ยะลายังเสนอให้ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เป็นแนวทางในการออกแบบและวางแผนการป้องกันภัยพิบัติ แทนการยึดติดกับวิธีการเดิม ๆ เช่น การสร้างเขื่อน โดยมองว่าควรมีการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้าน เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และชุมชนมากที่สุด



17 มกราคม 2568 09.25 น.